วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ “สหราชอาณาจักร”United Kingdom (UK) หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่าประเทศอังกฤษนั้น จริงๆแล้วคือ สหราชอาณาจักรบริเทนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland) เป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยดินแดน 4 ส่วน โดยมีสามส่วนตั้งอยู่บนเกาะเกรทบริเทน (Great Britain) ได้แก่ อังกฤษ (England), สกอตแลนด์ (Scotland) และ เวลส์ (Wales) อีกส่วนหนึ่งนั้น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ ไอร์แลนด์เรียกว่า ไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland)

รูปแบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ
ซึ่งระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา การศึกษาภาคบังคับเริ่มตั้งแต่อายุ 5 ปีถึง16 ปี เด็กนักเรียนประมาณ 95% จะเรียนในโรงเรียนรัฐบาล (สำหรับผู้ปกครองที่มีฐานะดีและมีรสนิยมสูงมักส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน)
ภาคการศึกษาของสถานศึกษาทุกระดับในอังกฤษ เริ่มต้นภาคแรก ในราวปลายเดือนกันยายน หรือต้นเดือนตุลาคมของปีที่หนึ่ง และสิ้นสุดราวปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคมของปีถัดไป โดยแบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ
1.ภาคต้น (Autumn Term) เริ่มปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนธันวาคม
2.ภาคกลาง (Spring Term) เริ่มกลางเดือนมกราคมถึงปลายเดือนมีนาคม
3.ภาคปลาย (Summer Term) เริ่มปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม

ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ
- ระดับประถมศึกษา (Preparatory School)
รับนักเรียนอายุ 5-13 ปี โดยการเรียนการสอนจะเน้นให้เด็ก มีทักษะในการเขียน และทักษะด้านตัวเลข เพื่อพัฒนาเด็กให้มีความรู้ ความสามารถตามวัย
                - ระดับเตรียมประถมศึกษา (Pre - Preparatory School) รับนักเรียนอายุตั้งแต่ 5 -7 ปี
                - ระดับประถมศึกษา (Preparatory School) รับนักเรียนอายุตั้งแต่ 8 -13 ปี
* การศึกษาในระดับนี้จะมุ่งเน้นการเตรียมตัวเข้าสอบ Common Entrance Examination (CEE) เพื่อก้าวไปสู่การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาต่อไป
- ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School)
รับนักเรียนตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไปที่สอบผ่าน CEE แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา และเรียนได้จนถึงอายุ 18 - 19 ปี รวมระยะเวลาศึกษา 5 ปี เรียกว่า year 9 - year 13 ในระดับมัธยมศึกษาทางกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์ของอังกฤษ ได้กำหนดให้มีการสอบวัดผลความรู้ และความสามารถ การสอบจะจัดโดยคณะกรรมาธิการอิสระซึ่งมี 5 คณะ ซึ่งผลการสอบดังกล่าว สามารถนำไปใช้ในการสมัครเข้าระดับอุดมศึกษาได้ การสอบแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
    1 . GCSE(General Certificate of Secondary Education
    2.1 GCE A Level(GCE Advanced) หรือที่รู้จักกันในนาม Sixth Form Colleges
    2.2 IB The International Baccalaureate (IB) Diploma
- ระดับอาชีวศึกษา (Further Education)
เป็นการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งไม่ประสงค์จะศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา หรือผู้ที่ไม่มีคุณวุฒิ GCSE แต่ประสงค์จะมีคุณวุฒิทางวิชาชีพต่างๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ
        - Higher National Certificate/Diploma (HNC/HND)
เป็นการศึกษาในระดับสูงสุดของระดับอาชีวศึกษา หลักสูตร 2 ปี 
        - National Vocational Qualification (NVQ) 
หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรสายอาชีพ เป็นการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติร่วมกัน แต่จะเน้นภาคปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนได้รับการฝึกฝนและมีความพร้อมก่อนที่จะ ออกไปประกอบอาชีพจริง  
- ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)
การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยปัจจุบันมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรมีประมาณ 96 แห่ง เป็นของรัฐบาลเกือบทั้งหมด ยกเว้น University of Buckingham ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเพียงแห่งเดียวการศึกษาระดับอุดมศึกษา แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ 
- Undergraduate
BTEC HNC/HND หรือ Diploma of Higher Education (Dip. HE)
เป็นหลักสูตร 2 ปี ส่วนใหญ่จะเปิดสอนอยู่ใน College of Higher Education โดยมหาวิทยาลัยบางแห่ง รับเปิดรับผู้สอบ "A" Level อย่างน้อย 1 วิชา หรือสำเร็จการศึกษาระดับ National Diploma การสมัครเข้าศึกษาต่อนั้นต้องสมัครผ่าน UCAS เช่นเดียวกับในระดับปริญญาตรี
First Degree (Bachelor Degree)
เป็นหลักสูตรการศึกษา 3 ปี ยกเว้นบางสาขาวิชา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ (4 ปี) สถาปัตยกรรมศาสตร์ (5 ปี) ทันตแพทย์ (5 ปี) สัตวแพทย์ (5 ปี) แพทย์ (6 ปี)
 - Post Graduate
Post - Graduate Certificate Diploma 
หลักสูตรการศึกษา 9 เดือนถึง 1 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีเข้าศึกษาต่อ
Master Degree
หลักสูตรการศึกษา 1-2 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีผลการเรียนดี
Doctoral Degree 
หลักสูตรการทำวิจัย ใช้เวลาในการศึกษา 3 ปี มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร M. Phil

ที่มา
http://www.kaplaninternational.com/
http://www.visionuk.net/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น